ถ้าพูดถึงนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่ซิดนีย์ ในปี 2000 อย่าง วิจารณ์ พลฤทธิ์ หลายคนคงรู้กันเป็นอย่างดี นอกจากเหรียญรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันแล้ว ยังมี เ งิ น รายได้ เ งิ น รางวัล ตอบแทนในความทุ่มเทเพื่อประเทศชาติอีกด้วย
ทั้งสมรักษ์ และ วิจารณ์ ต่างก็ได้รับการตอบแทนอย่างเต็มที่ รวมทั้งหน้าที่การงาน ซึ่ง สมรักษ์ เป็นเรือเอกสมรักษ์ ส่วนวิจารณ์เป็น พ.ต.ท.วิจารณ์ จากวันที่ชีวิตพลิกเป็นฮีโร่ของคนทั้งประเทศ ทั้งสองคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน และต่างจากนักกีฬาหลายคนที่ไม่สามารถรักษา เ งิ น และสร้างอนาคตใหม่ได้หลังเลิกอาชีพนักกีฬา
พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ สารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีชื่อเสียงก็เลือกที่จะกลับบ้านเกิด รับราชการตำรวจ ส่วน เ งิ น รางวัลที่เคยได้เมื่อครั้งได้เหรียญทองโอลิมปิก รวมประมาณ 20 ล้านบาท รวมของที่ นสพ.มอบให้ด้วย 10 ล้านนั้น ก็ไปลงทุนในรูปแบบซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ตอนนี้ทำสวนส้มอยู่ประมาณ 25 ไร่ ที่บ้านเกิด จ.อุตรดิตถ์
“ยอมรับว่าตอนนั้น มีคนมาชวนไปลงทุนหลายอย่าง แต่เราก็ต้องรู้ตัวเองดีว่าไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจอะไร ก็ตอบปฏิเสธไปว่าไม่ถนัดเท่านั้นเอง จึงรักษา เ งิ น ไว้ได้ ส่วนการใช้ชีวิตส่วนตัว ก็กลับบ้านกินข้าวกลางวันบ้าง ผมเองไม่ชอบเที่ยว เ ต ร่ อยู่แล้ว จึงใช้จ่ายอะไรไม่มากนัก”
นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้ พ.ต.ท.วิจารณ์ ซึ่งรับราชการมาแล้ว 23 ปี ไม่ค่อยปรากฏตัวในงานสังคมเท่าไรนัก ยังมี เ งิ น ทองเหลืออยู่มากพอ สำหรับอนาคตของ ลู ก และครอบครัว นอกจากรับราชการที่ สภ.อำเภอเมือง อุตรดิตถ์แล้ว ปัจจุบันเจ้าตัวยังเข้ามาช่วยเป็นผู้ฝึกสอน ในสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ส่วน สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่นักมวยรุ่นพี่ที่กำลังเจอ วิ ก ฤ ติ พ.ต.ท.วิจารณ์ บอกว่า “พี่บาสเป็นคนเก่ง และขอส่งกำลังใจให้พี่บาสด้วย” ต้องบอกว่าเป็นนักกีฬาที่ดำเนินชีวิตหลังเลิกเล่นได้อย่างน่าชื่นชมเลยทีเดียว
เรียบเรียงโดยทีมงาน ข่าวสาระ